โรคอะไรบ้างที่ไม่ควรศัลยกรรม : Avoid surgery

การทำศัลยกรรมเป็นการผ่าตัดอย่างหนึ่ง เพื่อเพิ่มความสวยงามการปรับเปลี่ยน ตกแต่งให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น โดยการผ่าตัดไม่ว่าจะรูปแบบไหน จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งด้านสุขภาพร่างกาย และปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น ก่อนการผ่าตัด ทำศัลยกรรม แพทย์มักแนะนำให้ทำการตรวจสุขภาพก่อนเข้ารับการผ่าตัด โดยเฉพาะผู้มีปัญหาสุขภาพ
การศัลยกรรม เสริมจมูก แก้จมูก ก็เช่นเดียวกัน ก่อนการเข้ารับการผ่าตัด แก้ไขหรือเสริมจมูกครั้งแรก ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงปัญหาสุขภาพโดยละเอียด และควรตรวจสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์ในการประเมินความพร้อมด้านสุขภาพก่อนเข้ารับการผ่าตัด ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างหรือหลังการผ่าตัด อันส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
โรคอะไรบ้างที่ไม่ควรทำศัลยกรรมจมูก
ภาวะสุขภาพที่ควรพึงระวังหรือควรได้รับการควบคุมก่อนพิจารณาการผ่าตัดแก้จมูก เสริมจมูก เช่น
โรคไทรอยด์
เกิดจากความผิดปกติของต่อม ไทรอยด์ ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ อ่อนเพลีย เนื่องจากมีการผลิตฮอร์โมนที่ไม่ปกติ ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรงของอวัยวะต่าง ๆ
โรคไวรัสตับอักเสบ
โรคร้ายที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบที่ตับ ภาวะที่เกิดขึ้นจากการอักเสบทำให้ติดเชื้อไวรัสหลายชนิดได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ เอ บีและซี
ผู้ที่มีภาวะไวรัสตับอักเสบที่ต้องการเสริมจมูก สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ กรณีที่ภาวะของโรคอยู่ในระยะสงบ ทั้งนี้ควรให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงโดยละเอียด และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
โรค SLE (Systemic Lupus Erythematosus) หรือ โรคพุ่มพวง (ภูมิแพ้ตัวเอง)
โรคภูมิแพ้ตัวเอง เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานบกพร่องทำให้แอนติบอดี (antibody) ผิดปกติทำลายเนื้อเยื่อและเซลล์ต่างๆ ในร่างกายตัวเอง เกิดการอักเสบเรื้อรังในอวัยวะต่างๆ ทั่วเรือนร่าง เช่น ผิวหนัง หัวใจ ปอด ระบบประสาทและระบบเลือด
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรค SLE
- ผู้มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรค SLE
- การติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียทำให้กระตุ้นความเสี่ยง
- ผื่นผิวหนัง
- การทายาบางชนิด
- ความเครียด
- ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยผู้หญิงพบว่าป่วยเป็นโรค SLE มากกว่าผู้ชาย
โรค SLE เป็นโรคเรื้อรังที่หากรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้
โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด หรือ โรคเกี่ยวกับระบบหัวใจ
โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติรุนแรง โรคหัวใจขาดเลือด หรือความดันโลหิตสูงจนไม่สามารถควบคุมได้ โรคเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในการผ่าตัด
โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจขั้นรุนแรง เช่น
- โรคหอบหืดขั้นรุนแรง
- โรคปอดเรื้อรัง (COPD)
โรคเบาหวาน (Diabetes)
โรคที่มีน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าปกติ ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่
เสี่ยงต่อการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา อาการที่พบบ่อยจะมีเหนื่อยง่าย ปัสสาวะบ่อย หากทำจมูก เเก้จมูก อาจจะทำให้เเผลผ่าตัดหายช้า
โรคผิวหนังบริเวณจมูกหรือมีการติดเชื้อ อักเสบ
ควรรักษาให้หายดีก่อนแล้วจึงเข้ารับการประเมินโดยแพทย์เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหลังผ่าตัด
โรคจิตเวชที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น
โรคจิตเภค โรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง โรคเหล่านี้ มีผลต่อการคาดหวังผลลัพธ์ ที่อาจส่งผลต่อการดูแลตัวเองหลังเข้ารับการเสริมจมูก แก้จมูกและการทำศัลยกรรม
โรคหัวใจ (Cardiovascular Disease)
ภาวะความผิดปกติของหัวใจ เมื่อหัวใจทำงานได้ไม่ดี ก็จะทำให้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะ เนื้อเยื่อ และเซลล์ของร่างกายไม่เพียงพอ อาจมีความเสี่ยงสูงปัญหาหลังการผ่าตัด เนื่องจากหัวใจอาจไม่สามารถจัดการกับความเครียดหรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างและหลังการผ่าตัดได้ดี
คุณแม่ตั้งครรภ์
เนื่องจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบเลือดไหลเวียน รวมถึงการรับประทานยาบางชนิด ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงระหว่างการผ่าตัดเเละหลังทำได้
เป็นโรคที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ ต้องการแก้จมูกควรทำอย่างไร
- เปิดเผยข้อมูลสุขภาพที่แท้จริงโดยละเอียดแก่ศัลยแพทย์
- สอบถามทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัด แก้จมูก เสริมจมูก รวมทั้งความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ตัดสินใจทำศัลยกรรมอย่างรอบคอบ โดยควรรับทราบถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น
- ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ หลังการผ่าตัดที่มีโอกาสเกิดสูงกว่าบุคคลทั่วไป เช่น การติดเชื้อ
- ผลกระทบที่ส่งผลให้แผลหายช้า สมานตัวได้ช้ากว่า
- มีโอกาสเกิดแผลนูน แผลคีลอยด์
- มีโอกาสเกิดผื่นผิวหนัง หรือโรคผิวหนังอื่นๆ
- มีความเสี่ยงต่อการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ โดยเฉพาะผู้มีภาวะความเจ็บป่วยเกี่ยวกับตับ เช่น ไวรัสตับอักเสบ
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก แก้จมูกและการทำศัลยกรรม จึงควรปรึกษาศัลยแพทย์โดยละเอียด รวมทั้งแจ้งข้อมูลปัญหาสุขภาพโดยละเอียดเพื่อให้แพทย์ได้ทำการประเมิน ซักประวัติทางการแพทย์ ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อตัวของผู้เข้ารับบริการ